ระวัง! ขับรถเหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น ผิดกฎหมาย เสี่ยงติดคุก

เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าพายุฝน การขับรถเหยียบแอ่งน้ำดูเหมือนจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง เนื่องจากพื้นถนนในประเทศไทย นั้นค่อนข้างมีลักษณะเป็นหลุม เป็นบ่อ และปัญหาเรื่องการระบาย ทำให้เกิดน้ำขังในหลายพื้นที่

เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน หลายๆ คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน คงพบเจอกับปัญหาเรื้อรังที่แก้ไขกันมานานแต่ก็แก้ไม่ได้สักที ปัญหาที่ว่านั้นก็คือปัญหาถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อจนมีน้ำขัง และด้วยเหตุนี้อาจไม่ใช่แค่ขับรถเหยียบแอ่งน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นจนได้รับความเดือดร้อน แต่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุที่สร้างความเสียหายถึงแก่ชีวิตได้

ผู้ขับนั้นต้องคำนึงถึงผู้อื่นที่เดินสัญจรอยู่บนฟุตปาธว่ามีใครอยู่ตรงนั้นหรือไม่ ถ้าหากว่ามีผู้ขับก็จำเป็นที่จะต้องชะลอความเร็ว เพื่อที่น้ำในแอ่งจะไม่สาดกระเด็นไปที่บริเวณฟุตปาธ โดยหลายๆคนคงเคยเจอเหตุการณ์ขับรถเหยียบแอ่งน้ำ ทำให้น้ำกระเซ็นใส่ผู้คนที่เดินริมทาง หรือว่าบางคนอาจโดนน้ำกระเซ็นใส่ซะเอง

แต่รู้ไหมว่าประเทศไทยการขับรถน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่นนั้นมีโทษจำคุก 3 เดือน และปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติกฏจราจรทางบกมาตรา 43 โทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือความปลอดภัยของผู้อื่น

และหากมีทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถยนต์ที่เหยียบน้ำกระเด็นใส่ สามารถเรียกร้องค่าเสียหาย ตามประมวลกฎหมายเพ่งและ พาณิชย์มาตรา 488 ผู้ขับจะต้องชดใช้ค่าเสียหายตามที่ศาลเพ่งให้คำวินิฉัยไว้

มิฉะนั้น อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนที่เมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เมื่อชายคนหนึ่งต้องเสียค่าปรับเป็นเงินมากถึง 215,000 บาท จากการที่เขาขับรถเหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่คุณแม่และลูกๆอีกสองคน

"เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกและท่อน้ำทิ้งตันจึงมีแอ่งน้ำขังเกิดขึ้น แต่ในขณะที่เกิดเหตุนั้นไม่มีฝนตกและแอ่งน้ำดังกล่าวนั้นมีความกว้างกว่า 6 เมตรซึ่งใหญ่พอที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นได้ ถึงอย่างนั้นก็ตามผู้ขับขี่กลับขับผ่านไปโดยไม่สนใจ ทั้งที่คนขับสามารถหยุดหรือชะลอ" ตำรวจของเคมบริดจ์กล่าว

เครดิตแหล่งข้อมูล : thailandstack