เลือกถังดับเพลิงในรถยนต์ยี่ห้อไหนดี รับมือไฟไหม้รถ

ถังดับเพลิงในรถยนต์ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อเกิดเพลิงไหม้ในรถยนต์ หรืออุบัติเหตุอื่นที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้กับตัวรถยนต์ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ใช้รถ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกถังดับเพลิงในรถยนต์แบบไหน วันนี้มีวิธีเลือกถังดับเพลิงในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี เพื่อช่วยป้องกันและรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้รถ มาฝาก

ประเภทของเพลิงไหม้ในรถยนต์
โดยปกติแล้วเพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้ในรถยนต์ จะแบ่งได้ 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

ประเภทที่ 1 เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่าย ของแข็งภายในรถยนต์ เช่น เบาะรถยนต์

ประเภทที่ 2 เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากของเหลวติดไฟ น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซที่สามารถติดไฟได้ เช่น แก๊สรถยนต์ น้ำมันเครื่อง

ประเภทที่ 3 เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เช่น แบตเตอรี่รถยนต์เมื่อเกิดการช็อต ไฟฟ้ารั่วไหลออกมา

วิธีเลือกถังดับเพลิง ให้เหมาะกับรถยนต์
1. ถังดับเพลิงผงเคมีแห้ง
เป็นถังดับเพลิงที่ควรติดตั้งได้ง่ายในรถยนต์ ภายในถังจะบรรจุผงเคมีแห้ง และก๊าซไนโตรเจน ที่สามารถช่วยยับยั้งปฏิกิริยาเคมีของการเกิดเพลิงไหม้ได้ ขนาดที่เหมาะสมสำหรับนำมาติดในรถยนต์จะอยู่ที่ขนาด 2 ปอนด์ และที่สำคัญสามารถใช้ดับเพลิงไหม้ประเภท 1 , 2 และ 3 ได้

2. ถังดับเพลิงชนิดโฟม
สำหรับถังดับเพลิงชนิดโฟม นั้นภายในบรรจุโฟม เมื่อฉีดออกไปน้ำยาโฟมจะไปคลุมกองเพลิงป้องกันไม่ให้เพลิงกลับมาลุกไหม้ได้อีก ตัวถังมีน้ำหนักที่เบา โดยถังดับเพลิงชนิดโฟมสามารถดับไฟที่เกิดจากประเภท 1 และ 2 ได้ แต่สำหรับประเภท 3 จะไม่สามารถดับไฟประเภทนี้ได้

3. ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย
มาต่อกันที่ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย ตัวถังจะมีสีเขียวภายในตัวถังบรรจุไปด้วยสารฮาโลตรอน หรือสาร HFC-236fa เมื่อฉีดออกไปแล้วนั้นจะไม่ทิ้งคราบตกค้าง และไม่สร้างความเสียหานต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของรถยนต์ เหมาะที่จะติดตั้งในรถยนต์ และสามารถใช้ดับเพลิงไหม้ประเภท 1 , 2 และ 3 ได้

4. ถังดับเพลิงชนิดเคมีสูตรน้ำ
ปิดท้ายกันที่ถังดับเพลิงชนิดเคมีสูตรน้ำสามารถช่วยดับเพลิงไหม้ประเภท 1 , 2 และ 3 ได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยสำหรับฉีดใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อฉีดออกมาแล้วนั้นจะไม่เกิดฝุ่นละอองอีกด้วย

เครดิตแหล่งข้อมูล :tqm