รู้หรือไม่? หมุนพวงมาลัย จนสุด ส่งผลเสียต่อรถ
หลายครั้งที่บางคนมักจะ "หมุนพวงมาลัยจนสุดแล้วค้างทิ้งไว้นานๆ" ไม่ว่าจะหมุน พวงมาลัย ไปทิศทางไหนก็ตาม ซึ่งรู้หรือไม่ว่า อันที่จริงแล้ว การที่หมุน พวงมาลัย จนสุดแล้วค้างทิ้งไว้นานๆ นั้นทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์
-การหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวจนสุด และออกตัวแรง มีอันตรายและมีผลเสียต่อระบบช่วงล่าง โดยเฉพาะเพลาขับสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งส่งผลโดยตรงไปที่ลูกปืนของหัวเพลา หรือระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (ในรถที่ใช้แบบน้ำมันไฮดรอลิก)
-การที่หมุนพวงมาลัยจนสุดแล้วค้างทิ้งไว้นาน จะทำให้น้ำมันเพาเวอร์มีความร้อนสูง และโอกาสที่จะทำให้ระบบของพวงมาลัยยเพาเวอร์ แบบที่ใช้ระบบไฮดรอลิคในการสร้างความดันน้ำมัน เกิดความเสียหายได้
-การหักพวงมาลัยจนสุดและแรง ถ้าหักพวงมาลัยจนสุดและแรง จะเกิดแรงดันของน้ำมันเพาเวอร์ ที่ไหลย้อนกลับสูงมาก ไปดันที่ปั๊มน้ำมันเพาเวอร์ทำให้เกิดการซึมออกมาจากปั๊ม และนอกเหนือการซึม ก็เกิดการรั่วตามสายยาง และนอกจากนั้นจะทำให้ข้อต่อ ซิลยาง หรืออะไหล่บางตัวเสียหาย และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก (ในรถที่ใช้แบบน้ำมันไฮดรอลิก)
-หมุนพวงมาลัยตอนรถหยุดนิ่ง ทำให้ดอกยางรถยนต์ สึกเร็วกว่ากำหนด เนื่องได้รับแรงเสียดสีเต็มๆกับพื้นถนน ซึ่งการหมุนพวงมาลัยแบบวิธีนี้ ยังจะทำให้มอเตอร์พวงมาลัยไฟฟ้า ทำงานหนักกว่าปกติ เสียเร็วขึ้น และอาจต้องเปลี่ยนทั้งชุดซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องหมุน พวงมาลัย ค้างไว้ เราก็ไม่ควรที่จะหมุน พวงมาลัย จนสุด แต่ถ้ารู้ว่าหมุนจนสุดแล้วให้ผ่อนแรงมือออกจากวง พวงมาลัย หรือคืน พวงมาลัย เล็กน้อย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา หรือได้รับความเสียหายในภายหลังครับ