เคล็ด (ไม่) ลับเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด

เคล็ด (ไม่) ลับเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด

      ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน "รถยนต์"คือ สิ่งที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของหลายคน เหตุผลนั้นก็เพราะรถยนต์เป็นยานพาหนะที่ให้ความสะดวกสบายและช่วยให้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกและง่ายขึ้น ซึ่งสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนจะต้องทำคือ "ประกันภัยรถยนต์"โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ "ประกันภัยภาคบังคับ" หรือที่เรียกว่า "ประกันภัยพรบ"เป็นประกันภัยของรถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องทำเพื่อเป็นหลักประกันในการช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์บนท้องถนน โดยไม่มีเงื่อนไขว่าผู้ได้รับผลกระทบเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกโดยจะให้ความช่วยเหลือทั้งกรณีบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลและเงินค่าชดเชยในกรณีทุพพลภาพหรือเสียชีวิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบเหตุและครอบครัว โดยมีระวางโทษของผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัยภาคบังคับจะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 10,000 บาท

      สำหรับประกันภัยอีกประเภทคือ "ประกันภาคสมัครใจ"เป็นประกันภัยที่ไม่มีข้อบังคับทางกฎหมายขึ้นอยู่กับความสมัครใจจากเจ้าของรถจะทำหรือไม่ทำก็ได้ โดยส่วนใหญ่เจ้าของรถมักจะทำประกันภัยชนิดนี้และ ต่อประกันรถยนต์ดังกล่าวในทุก ๆ ปีเพื่อความสบายใจเมื่อขับรถออกจากบ้าน เนื่องจากมีวงเงินช่วยเหลือในกรณีต่าง ๆ มากกว่าประกันภัย พรบ หลายเท่าและคุ้มครองครอบคลุมในหลายกรณีที่ไม่มีในประกันภัย พรบ เช่น ความคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ทั้งของผู้ขับขี่และคู่กรณี คุ้มครองกรณีไฟไหม้ รถสูญหายและประสบภัยพิบัติตามธรรมชาติเป็นต้นฉะนั้นก่อนตัดสินใจเลือกต่อประกันรถยนต์กับบริษัทใดนั้นต้อง

พิจารณาหลายปัจจัยประกอบกันเพื่อความคุ้มค่าสูงสุด สำหรับการเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ให้เหมาะสมและคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายมากที่สุดนั้นมีเคล็ดลับสำคัญดังนี้

       เคล็ดลับที่ 1คือ เลือกบริษัทจากประเภทประกันรถยนต์ที่ต้องการ ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกทั้งสิ้น 5 ประเภท ได้แก่ ประกันชั้น 1ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2ประกันชั้น 3+ และประกันชั้น 3 ทั้งนี้ประกันภัยแต่ละประเภทจะมีความคุ้มครองและวงเงินประกันภัยที่แตกต่างกันตัวอย่างเช่น ประกันชั้น 1ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในทุกกรณีทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี โดยคุ้มครองทั้งในส่วนค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายของรถยนต์ ค่าชดเชยในกรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้าและความสามารถในการมองเห็นให้กับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและคู่กรณี รวมถึงยังให้ความคุ้มครองในกรณีรถหาย ไฟไหม้ และประสบภัยพิบัติตามธรรมชาติด้วย ในขณะที่ ประกันชั้น 2นั้นแม้ว่าจะให้ความคุ้มครองในส่วนค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยกรณีต่าง ๆ ให้กับผู้ขับขี่ คู่กรณีและผู้โดยสาร ซึ่งรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคู่กรณีเหมือนกับ ประกันชั้น 1แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้ขับขี่ ด้วยเหตุนี้ก่อนตัดสินใจจึงควรศึกษาความคุ้มครองให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจเลือกประกันภัย

     เคล็ดลับที่ 2คือ เลือกบริษัทที่ต้องการทำประกัน โดยสิ่งแรกต้องดูว่าบริษัทที่เลือกมารับทำประกันนั้นมีประเภทประกันที่ต้องการให้บริการหรือไม่ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันภัยมักจะมีบริการ ต่อประกันรถยนต์ครบทุกประเภทดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อมาคือเงื่อนไข วงเงินคุ้มครอง และเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เช่น บริษัท A มีเงื่อนไขรับเฉพาะรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ในการทำประกันชั้น 1แต่รถของผู้ขับขี่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 7 ปี ซึ่งหากไม่หาข้อมูลบริษัทอื่นที่ตรงกับเงื่อนไขไว้ล่วงหน้า สุดท้ายเพื่อไม่ให้ประกันภัยขาดระยะผู้ขับขี่อาจต้องเลือกเป็นประกันชั้น 2ที่ให้ความคุ้มครองที่น้อยกว่าแทน ด้วยเหตุนี้ก่อนตัดสินใจจึงควรพิจารณาเงื่อนไขการทำประกันว่าสามารถทำได้ไหม ให้วงเงินประกันภัยในระดับสมเหตุสมผลหรือไม่ และที่สำคัญคือ เบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ต้องจ่ายในปัจจุบันมีความสะดวกสบายมากขึ้นเพราะประกันภัยของหลายบริษัทสามารถผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้

     เคล็ดลับที่ 3คือ เลือกประกันจากความน่าเชื่อถือ แม้ว่าการเลือกประกันภัยควรดูที่ความคุ้มครองเป็นหลัก แต่ต้องยอมรับว่าความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยให้เลือกมากมายหลายบริษัท แต่การทำประกันกับบริษัทประกันภัยที่ไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่มีมาตรฐานมักจะประสบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลมประกันอุบัติเหตุล่าช้า เครือข่ายศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมไม่ได้มาตรฐาน พนักงานไม่มีความรู้และความเข้าใจในงานประกันภัยเพียงพอ ส่งผลให้การดำเนินการต่าง ๆ ล่าช้า เสียเวลาทั้งฝ่ายผู้ขับขี่และคู่กรณีโดยไม่จำเป็น ฉะนั้นควรเลือกบริษัทประกันภัยที่มีชื่อเสียง มีความมั่นคงทางการเงินและมีรางวัลการันตียืนยันคุณภาพ

     เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติของบริษัทประกันภัยพบว่ามีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "บริษัทประกันภัยรถยนต์ DirectAsia"บริษัทประกันภัยที่มีให้บริการครบทั้ง 5 ประเภททั้งนี้ยังมีบริการต่อประกันภัย พรบประกันระบุชื่อแบบพิเศษ และประกันภัยสำหรับรถกระบะ 2 ประตูอีกด้วย ที่สำคัญเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มค่าครอบคลุมในราคาสบายกระเป๋า เพราะหากเจอประกันภัยรถยนต์ประเภทเดียวกันที่ถูกกว่ารับไปเลยส่วนต่างค่าประกันภัย และยังสามารถผ่อน 0% ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้สูงสุดนานถึง 10 เดือน นอกจากนั้นมีการบริการเคลมเร็วเคลมไวเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาทีและบริการซ่อมศูนย์และอู่ที่มีมาตรฐานทั่วประเทศไทย ถือเป็นบริษัทประกันภัยที่คุ้มค่าสมราคา มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานในระดับสากลการันตีด้วยรางวัลต่างๆมากมาย

   สำหรับผู้ขับขี่คนไหนที่กำลังสนใจและอยากทำประกันภัยรถยนต์ดี ๆ มีความคุ้มครองมีให้เลือกหลากหลาย สบายใจทุกสถานการณ์ อย่ามัวรอช้า! รีบมาเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับ DirectAsia พร้อมรับคำปรึกษาเรื่องการซื้อประกันภัยรถยนต์กับเราโดยตรงได้เลยทันที