เลขตัวถังรถคืออะไร อยู่ตรงไหนของรถ
ความหมายของเลขตัวถังรถ
เลขตัวถังรถทุกคัน จะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลขอยู่ด้วยกันทั้งหมด 17 หลัก ซึ่งในรถยนตืแต่ละคันก็จะมีเลขตัวถังรถที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็เพราะว่า จะบอกพื้นที่การผลิต บริษัทผู้ผลิต รูปแบบตัวถัง โรงงานที่ประกอบ ที่แตกต่างกันไป เลขตัวถังรถแต่ละคันจะมีไว้เพื่อเป็นการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์คันนั้น โดยตัวเลขถังรถจะตรงกับเล่มทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเลขตัวถัง 17 หลักนี้จะถูกใช้ในช่วงต่อภาษีประจำปี ขายโอนรถ หรือแม้แต่แจ้งเคลมประกันรถยนต์กับบบริษัทประกันเองต่างต้องใช้เลขตัวถังรถ
ความหมายของเลขตัวถังทั้ง 17 หลัก
หลักที่ 1 : บอกให้รู้ถึงภูมิภาคที่ผลิตรถคันนั้นขึ้น ดังนี้
A - H ผลิตในทวีปแอฟริกา
J - R ผลิตในทวีปเอเชีย (ยกเว้น O และ Q)
S - Z ผลิตในทวีปยุโรป
1 - 5 ผลิตในทวีปอเมริกาเหนือ
6 - 7 ผลิตในนิวซีแลนด์ หรือออสเตรเลีย
8 - 9 ผลิตในทวีปอเมริกาใต้
หลักที่ 2-3 : บอกให้รู้ถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่น M8 หมายถึง มาสด้าประเทศไทย, R0 หมายถึง โตโยต้าประเทศไทย, RH หมายถึง ฮอนด้าประเทศไทย ฯลฯ
หลักที่ 4-8 : บอกให้รู้ถึงรายละเอียดของตัวรถ เช่น รูปแบบตัวถัง, ระบบเกียร์, รุ่นย่อย เป็นต้น โดยแต่ละคันตัวเลขแตกต่างกันไปตามที่ผู้ผลิตกำหนด
หลักที่ 9 : ตัวเลขสำหรับยืนยันว่าไม่ใช่ VIN ปลอม มีรูปแบบการคำนวณที่ซับซ้อน เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเลขประจำตัวรถ
หลักที่ 10 : จะบอกปีที่ผลิตรถคันนั้นออกมา โดยเริ่มนับจากปี 1980 ที่มีการใช้เลข VIN 17 ครั้งแรก
ปี 1980 จะใช้ตัวอักษร A และไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงตัวอักษร Y ซึ่งแทนปี 2000
เมื่อถึงปี 2001 ได้มีการเปลี่ยนไปใช้ตัวเลขแทน ซึ่งจะไล่ตั้งแต่เลข 1 แทนปี 2001 ไปจนถึงเลข 9 แทนปี 2009
ในปี 2010 จนถึงปีปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรเหมือนเดิม โดยอักษร A แทนปี 2010 และไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
หลักที่ 11 : บอกถึงโรงงานที่ประกอบรถคันนั้น ๆ
หลักที่ 12-17 : เลข 6 หลักสุดท้าย
คือเลขคัสซี (Chassis Number) เป็นตัวเลขที่รันตามสายผลิต (Serial number) ทำให้รถแต่ละคันมีเลข VIN แตกต่างกันไป กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ตัวเลข 11 หลักก่อนหน้าสามารถเหมือนกันได้ แต่ตัวเลข 6 หลักสุดท้ายจะแตกต่างกันไป ไม่เหมือนกันสักคัน (ข้อมูลจาก khaorot)
ตำแหน่งของเลขตัวถังรถ
โดยส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งของเลขตัวถังรถของรถแต่ละรุ่นจะอยู่บริเวณที่แตกต่างกัน แผงหน้าปัดรถ ประตูฝั่งคนขับ กระโปรงรถ แผ่น พ.ร.บ. รถยนต์ โครงหน้ารถ ใต้ยางอะไหล่ ใต้ซุ้มล้อหลัง ใต้พรมฝั่งคนขับ คู่มือรถยนต์ และเล่มทะเบียนรถ เป็นต้น
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเลขตัวถังรถนั้นมีความสำคัญต่อรถเราอย่างมาก ฉะนั้นควรเช็กตำแหน่งและเลขตัวถังรถของเราให้ดีว่าเป็นเลขอะไร โดยอย่างยิ่งการซื้อรถมือสอง จะต้องเช็กว่าเลขตัวถังตรงกับรถคันดังกล่าวหรือไม่
เครดิตแหล่งข้อมูล :tqm
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!