ดีเดย์ 5 เม.ย. ทางด่วนจับความเร็ว- วิ่งไหล่ทาง!
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ทำงานบูรณาการร่วมกันมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ หรือ ทางด่วน
โดย ฝ่ายควบคุมการจราจร กทพ. ได้จัดทำแผนการดำเนินงานการป้องกันอุบัติเหตุในทางพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2563 - 2565 ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อป้องกันและลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ 1.การติดตั้งป้ายเเจ้งเตือนความเร็ว หรือ Your Speed Sign ทำงานควบคู่ไปกับกล้องตรวจจับความเร็ว ติดตั้ง 17 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ซึ่ง กทพ. ติดตั้งแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 4 จุด เเละทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 5 จุด
สำหรับอีก 2 เส้นทางที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการประกอบด้วย ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 4 จุด คาดแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2564 เเละทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 4 จุด คาดว่าจะเเล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2565
ในขณะที่มาตรการที่ 2 คือ การติดตั้งกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย หรือ ช่องทางฉุกเฉิน ได้ติดตั้ง จำนวน 32 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2563 จำนวน 1 เส้นทาง คือทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 10 จุด ส่วนอีก 3 เส้นทาง อยู่ในระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 6 จุด ทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 8 จุด เเละทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 8 จุด
สำหรับการวิ่งบนไหล่ทาง ในเส้นทางพิเศษโดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจร เปิดเส้นทางให้รถวิ่งบนไหล่ทางได้ ทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าจะถูกกล้องตรวจจับความผิดหรือไม่ ผู้ว่า กทพ. กล่าวเสริมว่า เส้นทางในชั่วโมงเร่งด่วน จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่จราจรในพื้นที่ในการอนุญาตให้วิ่งได้ และเบื้องต้นไม่มีความผิด สำหรับวิ่งในช่วงเวลานั้น โดยจะหารือเรื่องการระบุเวลาการอนุญาตให้รถวิ่งบนไหล่ทางในชั่วโมงเร่งด่วนให้ชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานรวบรวมข้อมูลผู้กระทำผิดก่อนหน้านี้ จะจัดส่งพร้อมไฟล์ภาพให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเริ่ม 5 เมษายน 2564
หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อนุมัติให้เริ่มตั้งด่านตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ตำรวจหลายพื้นที่ได้เริ่มตั้งด่านตรวจทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน โดยตำรวจจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ได้ตั้งด่านตรวจจับความเร็ว และกวดขันวินัยจราจร บนถนนนิตโย อุดรธานี-สกลนคร ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ที่บ้านโก่ย ต.หนองนาคำ อ.เมือง โดยมีกำลังตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นหัวหน้าชุดประจำด่านตรวจ พร้อมติดป้ายระบุชื่อหัวหน้าชุด และเบอร์ติดต่อผู้บังคับบัญชา โดยมีการกวดขันจับกุมผู้ที่ขับรถยนต์และรถ จยย. ที่ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด 90 กม.ต่อชั่วโมง รวมทั้งรถที่ผิดกฎหมายอื่น เช่น ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่มี พ.ร.บ.บุคคลที่ 3 และอื่น ๆ โดยมีผู้ที่ขับรถทำผิดกฎหมาย ถูกเรียกรับใบสั่งเสียค่าปรับ จำนวนหลายสิบคัน
ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ตั้งด่านในรูปแบบใหม่ มีการตั้งกล้องซีซีทีวี ตั้งแต่ด้านหน้าด่าน โดยเมื่อคืนนี้ สามารถควบคุมตัวผู้กระทำความผิด ในข้อหาเมาแล้วขับได้ 2 ราย รายแรกเป็นผู้หญิง ส่วนรายที่สองเป็นชาวต่างประเทศอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก พูดจาโวยวาย พร้อมยกนิ้วกลางแจกของลับให้กับผู้อื่น ซึ่งผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นั่นสูงกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตำรวจควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!