วิธีคำนวณค่างวดรถมือสอง
ค่างวดรถมืองสองต่างจากรถมือหนึ่ง แม้ว่าจะมียอดจัดไฟแนนซ์เท่ากัน แต่ค่างวดต่อเดือนของรถมือสองจะมีราคาสูงกว่ารถใหม่ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยรถมือสองที่ถูกกำหนดไว้สูงกว่า วิธีคำนวณค่างวดรถมือสอง
วิธีการคำนวณรถมือสอง จะมีสูตรคำนวณแบบง่ายๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับรถมือสองที่ต้องการซื้อได้ โดยข้อมูลที่จะต้องรู้คือ
-ยอดจัดซื้อรถยนต์ = ราคารถ-เงินดาวน์
-ดอกเบี้ยทั้งหมด = (ยอดจัดซื้อ × ดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน) × จำนวนปีที่ผ่อนชำระ
เมื่อรู้ข้อมูลดังกล่าวก็จะสามารถนำมาหาค่างวดรถคร่าวๆ ได้ ด้วยวิธีคิดตามด้านล่าง
ค่างวดรถมือสอง คำนวณอย่างไร
ยอดผ่อนชำระแต่ละงวด = ยอดจัดซื้อรถ+ดอกเบี้ยทั้งหมด /(หาร) จำนวนเดือนที่ผ่อนชำระ
วิธีการคำนวณรถมือสอง จะมีสูตรคำนวณแบบง่ายๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับรถมือสองที่ต้องการซื้อได้ โดยข้อมูลที่จะต้องรู้คือ
-ยอดจัดซื้อรถยนต์ = ราคารถ-เงินดาวน์
-ดอกเบี้ยทั้งหมด = (ยอดจัดซื้อ × ดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน) × จำนวนปีที่ผ่อนชำระ
เมื่อรู้ข้อมูลดังกล่าวก็จะสามารถนำมาหาค่างวดรถคร่าวๆ ได้ ด้วยวิธีคิดตามด้านล่าง
ค่างวดรถมือสอง คำนวณอย่างไร
ยอดผ่อนชำระแต่ละงวด = ยอดจัดซื้อรถ+ดอกเบี้ยทั้งหมด /(หาร) จำนวนเดือนที่ผ่อนชำระ
หากต้องการซื้อรถยนต์สักคันราคาขายจากเต็นท์ 350,000 บาท โดยจะดาวน์ 20% ผ่านสถาบันการเงินที่คิดดอกเบี้ย 8% ต่อปี ผ่อนชำระ 48 งวด (4 ปี)
ดังนั้น
1. ยอดจัดซื้อรถยนต์ = ราคารถ(a)-เงินดาวน์(b) = 280,000 บาท
ราคารถ : 350,000 บาท
เงินดาวน์ : 350,000 บาท 20% = 70,000 บาท
2. ดอกเบี้ยทั้งหมด = (ยอดจัดซื้อ × ดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน) × จำนวนปีที่ผ่อนชำระ
เมื่อนำยอดจัดซื้อ (1) รวมกับดอกเบี้ยแล้วหารด้วยจำนวนเดือนก็จะได้ค่าผ่อนชำระอยู่ที่ 7,700 บาท แต่เมื่อรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ก็จะมีค่าใช้จ่ายของค่างวดรถอยู่ที่ 8,239 บาทต่อเดือน กรณี่ที่เรามีเงินก้อนใหญ่ที่ตั้งใจจะโปะด้วยวัตถุประสงค์ลดดอกเบี้ยลงเหมือนเวลาผ่อนบ้านนั้นไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าต้องการทำให้ระยะเวลาผ่อนน้อยลง การโปะเงินก็เป็นอีกทางเลือก
ปัจจุบันการคำนวณค่างวดรถมือสองง่ายมาก บางไฟแนนซ์สามารถกรอกข้อมูลแต่ละช่องตามที่บอก และสรุปออกมาเป็นตัวเลขได้เช่นกัน
เครดิตแหล่งข้อมูล : one2car.com
ดังนั้น
1. ยอดจัดซื้อรถยนต์ = ราคารถ(a)-เงินดาวน์(b) = 280,000 บาท
ราคารถ : 350,000 บาท
เงินดาวน์ : 350,000 บาท 20% = 70,000 บาท
2. ดอกเบี้ยทั้งหมด = (ยอดจัดซื้อ × ดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน) × จำนวนปีที่ผ่อนชำระ
= (280,000 (8%) ) × 4
= 22,400 × 4
= 89,600เมื่อนำยอดจัดซื้อ (1) รวมกับดอกเบี้ยแล้วหารด้วยจำนวนเดือนก็จะได้ค่าผ่อนชำระอยู่ที่ 7,700 บาท แต่เมื่อรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ก็จะมีค่าใช้จ่ายของค่างวดรถอยู่ที่ 8,239 บาทต่อเดือน กรณี่ที่เรามีเงินก้อนใหญ่ที่ตั้งใจจะโปะด้วยวัตถุประสงค์ลดดอกเบี้ยลงเหมือนเวลาผ่อนบ้านนั้นไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าต้องการทำให้ระยะเวลาผ่อนน้อยลง การโปะเงินก็เป็นอีกทางเลือก
ปัจจุบันการคำนวณค่างวดรถมือสองง่ายมาก บางไฟแนนซ์สามารถกรอกข้อมูลแต่ละช่องตามที่บอก และสรุปออกมาเป็นตัวเลขได้เช่นกัน
เครดิตแหล่งข้อมูล : one2car.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!