
4 Checklist เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ค้นให้เจอสิ่งที่ใช่

รถยนต์คันแรกของหลายคนมาพร้อมประกันภัยชั้น 1 ที่แถมมาแบบงง ๆแต่พอต้องต่ออายุเองความสับสนก็เริ่มขึ้นกับการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ท่ามกลางตัวเลือกมหาศาล จนต้องตั้งคำถามว่า "เราต้องเลือกประกันแบบไหนกันแน่?"สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องของเบี้ยประกันหรือเงื่อนไข แต่เป็นเรื่องของ "ชีวิตจริง"
หลังเกิดอุบัติเหตุ นี่คือ Checklist ที่ใช้เป็นตัวช่วยในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์และเลือกสิ่งที่ใช่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ไม่ใช่แค่ "เบี้ยถูก" แต่คือ "คุณภาพการเคลม" ที่ต้องชัดเจน
เบี้ยประกันที่ถูกที่สุดมักดึงดูดใจ แต่หลังเจออุบัติเหตุครั้งแรกหลายคนก็ตาสว่าง บริษัทประกันบางแห่งเบี้ยน่าสนใจแต่พอถึงเวลาเคลมจริงกลับเจอปัญหาตั้งแต่การรอสายเจ้าหน้าที่ที่นานการส่งเรื่องที่ใช้เวลานาน หรือเรื่องอู่ซ่อมรถที่ต้องรอนานกว่าจะได้คิวสิ่งที่ควรมองหาคือบริษัทประกันที่มีชื่อเสียงด้านการบริการหลังการขายและมี"รีวิวการเคลม" ที่ดีจากผู้ใช้จริงเพราะเงินที่จ่ายไปคือการซื้อความสบายใจตอนเกิดเหตุไม่ใช่แค่ตัวเลขที่ถูกที่สุด
2. ไม่ใช่แค่ "วงเงินคุ้มครอง" แต่คือ "ความคุ้มครองที่ตรงใจ"
ประกันชั้น 1 ไม่ได้คุ้มครองครอบคลุมทุกอย่างเสมอไป หากศึกษาดี ๆ จะพบว่า"ประกันรถยนต์" มีความยืดหยุ่นกว่าที่คิดมากแต่ละแพ็กเกจมีความคุ้มครองย่อยที่แตกต่างกัน บางกรมธรรม์วงเงินสูงแต่ค่าเสียหายส่วนแรกก็สูงตามหรือบางกรมธรรม์เพิ่มความคุ้มครองพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เช่น"ประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อมห้าง" สำหรับคนรักรถ หรือ "ประกันสำหรับรถไฟฟ้า"ที่ครอบคลุมเรื่องแบตเตอรี่ นี่ล่ะคือการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่เรียกว่า"คุ้มค่า"
3. ไม่ใช่แค่ "อู่ในเครือ" แต่ต้อง "อู่ที่เราไว้ใจ"
การเลือกประกันที่คุ้มค่ารวมถึงเรื่องของ "อู่ซ่อมรถ" ด้วยบริษัทส่วนใหญ่มีอู่ในเครือจำนวนมากก็จริงแต่บางครั้งก็อยู่ไกลบ้านหรือไม่ใช่อู่ที่เราไว้ใจในการซ่อมรถ เทคนิคง่าย ๆคือสอบถามเพื่อนที่เคยใช้บริการ หรือใช้ Google Maps
ค้นหาอู่ซ่อมรถใกล้บ้านที่ได้รับรีวิวดี ๆ ก่อนแล้วค่อยตรวจสอบรายชื่ออู่ในเครือของบริษัทประกันว่ามีอู่ที่เราต้องการหรือไม่
4. ไม่ใช่แค่ "คนใช้รถ" แต่คือ "คนที่เราจะฝากชีวิตไว้ด้วย"
การเปรียบเทียบประกันรถยนต์ก็เหมือนการเลือกเพื่อนร่วมเดินทางคนสำคัญที่จะฝากชีวิตและทรัพย์สินไว้ด้วย เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือก "โบรกเกอร์" หรือ "ตัวแทน"
ที่มีความเชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือได้ตลอดเวลาเพราะต่อให้เลือกกรมธรรม์ที่ดีที่สุดแต่ถ้าไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีก็ไม่มีประโยชน์
การเปรียบเทียบประกันรถยนต์ไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัวอีกต่อไปหากเปลี่ยนมุมมองจากการมองหาแค่เบี้ยที่ถูกที่สุด มาเป็นการมองหา"ความคุ้มค่า" และ "ความสบายใจ" ที่ได้รับเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้งานจริงการทำประกันรถยนต์คือการลงทุนในความปลอดภัยของตัวเราและคนที่เรารัก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!