หัวเทียนรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่


หัวเทียนรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่


หัวเทียนรถยนต์คืออะไร

หัวเทียนของรถยนต์ (Spark Plug) คือชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนตที่อยู่ภายในรถยนต์ จะถูกประกอบอยู่ด้านบนของกระบอกสูบ โดยมีทำหน้าที่รับกระแสไฟต่อจากตัวคอยล์ที่เป็นตัวจุดระเบิด เกิดเป็นประกายไฟในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ การทำงานของช่องระบายแก๊สและน้ำมันในกระบอกสูบ

หัวเทียนมีหลายส่วนประกอบสำคัญ :

ฝาหัวเทียน (cylinder head cover) : ส่วนที่ปิดหัวเทียนและมักมีที่ระบายอากาศหรือที่ระบายน้ำมัน
หัวเทียน (cylinder head) : ส่วนที่ติดอยู่บนกระบอกสูบและมีรูที่ใช้สำหรับนำเข้าแก๊ส/แหล่งเผาไหม้และการปล่อยแก๊สเสีย

หัวเทียนมีหลายฟังก์ชันสำคัญ :
การปิดแก๊สและน้ำมัน : หัวเทียนทำหน้าที่ปิดกระบอกสูบเพื่อให้แก๊สและน้ำมันไม่รั่วออกมานอก

การปรับเปลี่ยนระบบน้ำเย็น : หัวเทียนมีท่อที่เชื่อมต่อกับระบบน้ำหล่อเย็น เพื่อช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์

การปรับระบบวาล์ว : หัวเทียนประกอบด้วยวาล์วที่ควบคุมการระบายแก๊สเสียจากกระบอกสูบและการนำเข้าแก๊สที่จำเป็นสำหรับการเผาไหม้

หัวเทียนรถยนต์มีกี่ประเภท ควรเลือกแบบไหน
หัวเทียนนิกเกิล เหมาะกับรถยนต์รุ่นเก่า เพราะอาศัยกำลังไฟในการจุดระเบิดต่ำ แต่ปัจจุบัน มีการนำเอานิกเกิลมาผสมกับธาตุอื่นๆ เพิ่มความทนทานให้กับขั้วหัวเทียน และช่วยยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ยังถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานกับเครื่องยนต์สมัยใหม่ได้แล้วด้วย

หัวเทียนแพลทินัม ใช้งานได้กับเครื่องยนต์ทุกรุ่น เนื่องจากเป็นหัวเทียนที่ทำจากแพลทินัม มีความทนทานสูง จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดเมื่อเทียบกับหัวเทียนแบบนิกเกิล สามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่สูง จึงทำให้มีเขม่าควันที่ขั้วหัวเทียนน้อยกว่าและมีราคาที่สูงกว่าหัวเทียนนิกเกิล
หัวเทียนอิริเดียม หรือหัวเทียนแบบเข็ม เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ให้แรงม้าสูง รถยนต์ที่ใช้เทอร์โบ วัสดุทำมาจากอิริเดียมที่มีความแข็งแรงทนทานสูงกว่าและนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทุกประเภท จุดระเบิดได้อย่างแม่นยำ แต่ราคาค่อนข้างสูงนั่นเอง

หัวเทียนรถยนต์มีกี่ประเภท

หัวเทียนรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่
การเปลี่ยนหัวเทียนของรถยนต์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงระยะทางที่รถได้วิ่ง, สภาพถนน, การใช้งานรถ, และคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ แต่โดยทั่วไปแล้วควรทำการเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์ประมาณทุก 40,000-100,000 กิโลเมตร (25,000-60,000 ไมล์) หรือประมาณทุก 2-5 ปี หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์แต่ละค่าย

    รถยนต์แต่ละรุ่นแต่ละค่ายอาจมีคำแนะนำที่แตกต่างกัน เพื่อความแน่ใจในการเปลี่ยนหัวเทียนในรถยนต์ของคุณ ควรตรวจสอบคู่มือการใช้งานหรือติดต่อศูนย์บริการของผู้ผลิตรถยนต์

นอกจากนี้ หากมีสัญญาณของปัญหาที่เกิดขึ้นกับหัวเทียน เช่น การหลุดไฟ, การรั่วของน้ำหล่อเย็น หรือเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ ควรนำรถยนต์เข้าเช็คและซ่อมแซมหรือเปลี่ยนหัวเทียนตามศูนย์บริการหรืออู่รถยนต์ที่ไว้ใจได้ทันทีเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

อาการที่ต้องเปลี่ยนหัวเทียน
การเปลี่ยนหัวเทียนของรถยนต์มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาหรือความเสียหายที่ส่งผลต่อสมรรถนะของหัวเทียนหรือเครื่องยนต์โดยรวม นี่คืออาการหรือสัญญาณที่กำลังบอกคุณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนหัวเทียนของรถยนต์แล้ว

น้ำมันเครื่องหรือน้ำหล่อเย็น : หากคุณพบน้ำมันเครื่องหรือน้ำหล่อเย็นที่หัวเทียน อาจเป็นสัญญาณว่ามีการรั่วน้ำมันมายังส่วนนี้ นั่นอาจเกิดขึ้นเนื่องจากซีลหัวเทียนไม่แน่น

เครื่องยนต์รอบเดินเบาไม่นิ่ง : เครื่องยนต์มีอาการสั่นๆ ขณะรถยนต์หยุดนิ่งหรือเครื่องยนต์รอบเดินเบา อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหากับหัวเทียน

การระเหิดน้ำมันหรือน้ำที่ส่วนหัวเทียน : หากมีน้ำมันที่ด้านล่างของหัวเทียนหรือรอยเหมือนแห้งของน้ำหรือน้ำมันบนผิวหัวเทียน อาจเป็นสัญญาณของการรั่วของน้ำหรือน้ำมันจากหัวเทียน

ระบบเครื่องยนต์มีปัญหาหรือรถสตาร์ทติดยาก : หัวเทียนที่ชำรุดอาจทำให้ระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เสถียร, สูญเสียประสิทธิภาพ, หรือมีปัญหาในการสตาร์ท รถยนต์สตาร์ทได้ยากหรือไม่สตาร์ทเลย

เสียงผิดปกติของเครื่องยนต์ : หากเครื่องยนต์มีเสียงสูงและไม่ปกติที่หัวเทียนหรือรอบหัวเทียน อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหากับชิ้นส่วนภายในหัวเทียน เช่น วาล์วหรือพวงมาลัย

หากคุณพบอาการเหล่านี้หรือสงสัยว่าหัวเทียนของรถยนต์ของคุณมีปัญหา แนะนำให้นำรถยนต์ไปยังศูนย์บริการหรือช่างรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหา และรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแซมหัวเทียนของคุณ

เปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์ราคากี่บาท

ราคาการเปลี่ยนหัวเทียนของรถยนต์ มีความแตกต่างอย่างมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

รุ่นและยี่ห้อของรถยนต์ : รถยนต์ที่แตกต่างกันอาจมีโครงสร้างและการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน, ส่งผลต่อค่าแรงงานและวัสดุที่ใช้ในการเปลี่ยนหัวเทียน

ขนาดของเครื่องยนต์ : ขนาดของเครื่องยนต์ส่งผลต่อปริมาณและขนาดของหัวเทียนที่จะต้องใช้

สภาพแวดล้อมท้องถิ่น : ราคาการบริการและวัสดุอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่คุณอยู่

ความเชี่ยวชาญของศูนย์บริการ : ศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนหัวเทียนมีราคาที่แตกต่างกัน

วัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซม : วัสดุที่ใช้ในการเปลี่ยนหัวเทียนมีราคาต่างกัน เช่น หัวเทียนชุบเรซิ่น (resin-coated) หรือ หัวเทียนทำจากโลหะ

ค่าแรงงาน : ค่าแรงงานของช่างที่ทำการเปลี่ยนหัวเทียน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์