เรื่องควรรู้ของคนขับน้อย ไม่ค่อยได้ใช้รถ
1. รถที่ไม่ค่อยได้ใช้ แบตเตอรี่ก็เสื่อมได้
สำหรับรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือ รถที่ขับน้อย หากจอดรถทิ้งไว้ อาจทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมได้ เพราะแม้เราจะจอดรถไว้เฉยๆ แต่แบตเตอรี่จะคายประจุไฟออกมาเพื่อนำไปใช้ในส่วนต่างๆ ของรถยนต์ให้ทำงานอยู่ เช่น ระบบกันขโมย นาฬิกาในรถ เป็นต้น และจากนั้นจะถูกชาร์จกลับมาให้เต็มอีกครั้งเมื่อมีการใช้งานรถ ดังนั้นเราควรทำการสตาร์ทรถครื่องทิ้งไว้ 5-10 นาที เพื่อให้มีการชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่เหมือนเดิม
2. ไม่ได้ขับรถไกลๆ ทุกวัน ควรเปลี่ยนยางทุกๆ 5-6 ปี
ส่วนใหญ่แล้วยางรถยนต์หากจะต้องทำการเปลี่ยนอาจพิจารณาได้จากคุณภาพของยางรถยนต ดอกยางรถยนต์ ความลึกร่องยาง ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ทั้งนี้การทำให้ยางรถยนต์สภาพเสื่อมนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของแต่ละคน เช่นบางคนขับรถยนต์แล้วชอบเบรกแรงๆ ก็ทำให้อายุของยางเสื่อมสภาพไวขึ้น หรือบางคนใช้งานเป็นประจำ หรือขับระยะไกล อาจจะต้องเปลี่ยนไวหน่อย หรือบางคนใช้งานน้อย ขับใกล้ๆ ก็อาจจะทำให้หน้ายางยังดีอยู่ อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ให้เปลี่ยนยางทุกๆ 5-6 ปี
3. น้ำมันเครื่องเสื่อมได้แม้ไม่ค่อยสตาร์ทรถ
โดยปกติแล้วน้ำมันเครื่องยนต์จะมีอายุในการเปลี่ยนถ่ายของตัวเอง อย่างน้ำมันเครื่องธรรมดาใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กม. , น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ใช้งานได้ประมาณ 7,000 กิโลเมตร และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ใช้งานได้ประมาณ 1 ปี แม้ว่ารถไม่ได้ใช้งาน แต่ถ้าเมื่อครบกำหนดที่ต้องเปลี่ยนน้ำมัน้ครื่องก็ควรนำไปเปลี่ยน เพื่อป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์
4. รถจอดนานควรสตาร์ทอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
สำหรับรถไม่ค่อยได้ใช้ เราต้องหมั่นสตาร์ทรถสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งนั้น ควรสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 5-10 นาที หรือให้เราขับรถออกไปข้างนอก ขับบริเวณระแวกบ้าน เพื่อให้ระบบเครื่องยนต์ต่างๆ เช่นระบบเชื้อเพลิง ระบบแบตเตอรี่ ได้มีการทำงาน เป็นการช่วยไมาให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพอีกด้วย
5. รถขับน้อย ไม่ควรจ่ายประกันราคาแพง
แน่นอนว่าประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน แต่หากเราเป็นคนขับน้อย ใช้งานรถไม่บ่อย หลายคนอาจจะคิดว่าหากทำประกันรถทั่วไปที่คุ้มครอง 1 ปีไม่ว่าจะขับกี่กิโล เราก็ต้องจ่ายเท่าเดิม อาจจะไม่คุ้ม
เครดิตแหล่งข้อมูล : tqm
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!