แบตเตอรี่รถ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับรถเรา
แบตเตอรี่รถ นั่นถือเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่มีความสำคัญต่อรถยนต์ของเรา โดยมีหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ และยังเป็นตัวช่วยเก็บสำรองไฟในรถด้วย
ซึ่งโดยทั่วไปแบตเตอรี่รถจะมีอายุใช้งานประมาณ 1-3 ปี TQM เลยมาพร้อมกับวิธีการเลือกแบตเตอรี่รถให้เหมาะกับการใช้งาน มาฝากกันครับ
แบตเตอรี่รถแบบน้ำ
เป็นแบตเตอรี่รถยนต์แบบดั้งเดิม โดยก่อนใช้จะต้องเติมน้ำกรดละชาร์จไฟก่อนใช้งาน และควรชาร์จไฟไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง โดยข้อดีของแบตเตอรี่รถแบบน้ำนั่นมีข้อดีที่อายุของแบตเตอรี่อยู่ได้นาน และมีราคาที่ถูก ส่วนข้อเสียคือต้องหมั่นตรวจเช็กน้ำกลั่นก่อนใช้งานทุกครั้ง ซึ่งแบตเตอรี่รถแบบน้ำจะเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการดูแลรถพอสมควร
แบตเตอรี่รถแบบแห้ง
เป็นชนิดของแบตเตอรี่รถที่ถูกพัฒนามาจากแบตเตอรี่รถแบบน้ำ โดยจะต่างตรงที่แบตเตอรี่รถแบบแห้งนั้น ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ข้อดีก็คือไม่ต้องค่อยตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นบ่อยๆ ส่วนข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างจะสูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยแบตเตอรี่รถแบบแห้งนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการเช็กรถ จึงตอบโจทย์และเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
แบตเตอรี่รถแบบกึ่งแห้ง
แบตเตอรี่รถแบบกึ่งแห้งนั่นจะคล้ายกับแบตเตอรี่รถแบบแห้ง ที่มีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟจากโรงงานมาแล้ว เราไม่ต้องมาชาร์จไฟก่อนใช้งาน แต่ก็จะมีรูให้สามารถเติมน้ำกลั่น แต่ไม่ต้องดูแลบ่อยเหมือนกับแบตเตอรี่แบบน้ำ ให้ทำการรวจสอบระดับน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ข้อดีคือราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย มีความทนทานสูง ส่วนข้อเสียหากเก็บไว้นาน อายุของแบตเตอรี่อาจสั้นลง
แบตเตอรี่รถแบบไฮบริด
ปิดท้ายกันที่ แบตเตอรี่รถแบบไฮบริด ที่ถูกพัฒนามาจากแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยแบตเตอรี่ไฮบริดนี้จะมีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่ารุ่นธรรมดา ใช้งานได้นานประมาณ 3 เดือนถึงเติมน้ำกลั่นอีกที ข้อดีคือดูแลรักษาง่าย และทนทานกว่ากว่าแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ ส่วนข้อเสียคือมีราคาสูงกว่าดูแลรักษาง่ายกว่าแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ เหมาะกับรถที่ใช้งานหนักอย่างรถบรรทุก หรือ รถโดยสารเป็นต้น
และนี่ก็เป็นแบตเตอรี่รถแต่ละประเภทซึ่ง แต่ละชนิดนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทรถและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้รถแต่ละคน เลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถแล้ว
ซึ่งโดยทั่วไปแบตเตอรี่รถจะมีอายุใช้งานประมาณ 1-3 ปี TQM เลยมาพร้อมกับวิธีการเลือกแบตเตอรี่รถให้เหมาะกับการใช้งาน มาฝากกันครับ
แบตเตอรี่รถแบบน้ำ
เป็นแบตเตอรี่รถยนต์แบบดั้งเดิม โดยก่อนใช้จะต้องเติมน้ำกรดละชาร์จไฟก่อนใช้งาน และควรชาร์จไฟไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง โดยข้อดีของแบตเตอรี่รถแบบน้ำนั่นมีข้อดีที่อายุของแบตเตอรี่อยู่ได้นาน และมีราคาที่ถูก ส่วนข้อเสียคือต้องหมั่นตรวจเช็กน้ำกลั่นก่อนใช้งานทุกครั้ง ซึ่งแบตเตอรี่รถแบบน้ำจะเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการดูแลรถพอสมควร
แบตเตอรี่รถแบบแห้ง
เป็นชนิดของแบตเตอรี่รถที่ถูกพัฒนามาจากแบตเตอรี่รถแบบน้ำ โดยจะต่างตรงที่แบตเตอรี่รถแบบแห้งนั้น ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ข้อดีก็คือไม่ต้องค่อยตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นบ่อยๆ ส่วนข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างจะสูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยแบตเตอรี่รถแบบแห้งนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการเช็กรถ จึงตอบโจทย์และเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
แบตเตอรี่รถแบบกึ่งแห้ง
แบตเตอรี่รถแบบกึ่งแห้งนั่นจะคล้ายกับแบตเตอรี่รถแบบแห้ง ที่มีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟจากโรงงานมาแล้ว เราไม่ต้องมาชาร์จไฟก่อนใช้งาน แต่ก็จะมีรูให้สามารถเติมน้ำกลั่น แต่ไม่ต้องดูแลบ่อยเหมือนกับแบตเตอรี่แบบน้ำ ให้ทำการรวจสอบระดับน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ข้อดีคือราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย มีความทนทานสูง ส่วนข้อเสียหากเก็บไว้นาน อายุของแบตเตอรี่อาจสั้นลง
แบตเตอรี่รถแบบไฮบริด
ปิดท้ายกันที่ แบตเตอรี่รถแบบไฮบริด ที่ถูกพัฒนามาจากแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยแบตเตอรี่ไฮบริดนี้จะมีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่ารุ่นธรรมดา ใช้งานได้นานประมาณ 3 เดือนถึงเติมน้ำกลั่นอีกที ข้อดีคือดูแลรักษาง่าย และทนทานกว่ากว่าแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ ส่วนข้อเสียคือมีราคาสูงกว่าดูแลรักษาง่ายกว่าแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ เหมาะกับรถที่ใช้งานหนักอย่างรถบรรทุก หรือ รถโดยสารเป็นต้น
และนี่ก็เป็นแบตเตอรี่รถแต่ละประเภทซึ่ง แต่ละชนิดนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทรถและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้รถแต่ละคน เลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถแล้ว
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!