3 ข้อดี รีไฟแนนซ์รถยนต์ ให้ขับได้อย่างสบายกระเป๋า
ช่วงข้าวยากหมากแพงหนนี้ เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่หันไปทางไหนก็มีแต่คนบ่นว่าเงินทองหายาก ข้าวของต่าง ๆ ก็ราคาขึ้นเอาขึ้นเอา บางรายวางแผนการเงินได้ดีก็สามารถประคับประคองตัวไปต่อได้ ในขณะที่อีกหลายคนอาจติดกับดัก หมุนรายได้ไม่ทันรายจ่าย แต่ชีวิตก็ยังมีทางออกเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภาระที่เกิดขึ้นมาจากการผ่อนรถยนต์ด้วยล่ะก็ รถคันโปรดคันนั้นของคุณนั่นแหละ...ช่วยได้
ก่อนหน้านี้ เราอาจคุ้นกับคำว่า รีไฟแนนซ์ จากอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านหรือคอนโดมิเนียม แต่ปัจจุบัน เราสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้เช่นเดียวกัน แม้ว่าสินค้าทั้งสองประเภทจะมีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันก็ตาม
ว่ากันในรายละเอียด การรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็คือการนำสินทรัพย์ (ในที่นี้หมายถึงรถยนต์คันโปรดของคุณ) มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้กู้เช่นเดียวกับการออกรถป้ายแดงในตอนแรก ทั้งนี้ สถาบันการเงินหรือธนาคารจะมีการประเมินสภาพรถ ณ ปัจจุบัน โดยอ้างอิงกับราคากลางของรถรุ่นนั้นว่าอยู่ในระดับใด
ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ว่าเป็นหนทางหนึ่งในการลดต้นทุนการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังมีภาระหนี้เหลือไม่น้อยกว่า 3 - 5 ปี สามารถทำการปรับเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าเดิมได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ เราอาจคุ้นกับคำว่า รีไฟแนนซ์ จากอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านหรือคอนโดมิเนียม แต่ปัจจุบัน เราสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้เช่นเดียวกัน แม้ว่าสินค้าทั้งสองประเภทจะมีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันก็ตาม
ว่ากันในรายละเอียด การรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็คือการนำสินทรัพย์ (ในที่นี้หมายถึงรถยนต์คันโปรดของคุณ) มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้กู้เช่นเดียวกับการออกรถป้ายแดงในตอนแรก ทั้งนี้ สถาบันการเงินหรือธนาคารจะมีการประเมินสภาพรถ ณ ปัจจุบัน โดยอ้างอิงกับราคากลางของรถรุ่นนั้นว่าอยู่ในระดับใด
ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ว่าเป็นหนทางหนึ่งในการลดต้นทุนการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังมีภาระหนี้เหลือไม่น้อยกว่า 3 - 5 ปี สามารถทำการปรับเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าเดิมได้อีกด้วย
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ (Car Loan Refinance)
*ช่วยให้เงินผ่อนต่องวด/เดือน น้อยลง ลดความตึงเครียดในการชำระลงได้
*การรีไฟแนนซ์รถยนต์ช่วยให้ได้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งใหม่ที่ลดลง
*มีโอกาสได้เงินส่วนต่าง เพื่อนำมาใช้จ่ายฉุกเฉินได้
หากรู้สึกว่าสถานการณ์การเงินของตัวเองอยู่ในขั้นวิกฤต อาจถึงเวลาที่จะใช้การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดเข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์แล้ว โดยมี 2 ทางเลือก คือ
1.รีไฟแนนซ์กับธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม โดยศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เช่น เงื่อนไขหรืออัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน หรือการประเมินราคารถยนต์
2.รีไฟแนนซ์ด้วยธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่มีเงื่อนไขตรงตามความต้องการ
ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อมูลรายละเอียดเงื่อนไขมาจากแหล่งเงินกู้แล้ว ผู้กู้ต้องเปรียบเทียบ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายรวมสุทธิทั้งหมด กับหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมก่อนหน้านี้ หากได้ผลลัพธ์ว่าหนี้สินลดลงจากเดิม นั่นถือเป็นการรีไฟแนนซ์ที่เกิดประโยชน์สุงสุด
นอกจากข้อดีแล้ว การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดก็มีข้อเสียอยู่บ้าง และผู้ที่ทำการรีไฟแนนซ์ควรยอมรับกับสิ่งต่าง ๆ ที่จะตามมา เช่น ทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น หรือมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินการรีไฟแนนซ์ใหม่ และในบางกรณีอาจมีค่าปรับในการไถ่ถอนก่อนกำหนด และมีความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารเกี่ยวกับรายได้ของผู้กู้อีกด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาขั้นตอนต่าง ๆ อย่างถ่องแท้และคิดว่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะเป็นการกู้สถานการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุด ก็เริ่มดำเนินการกันเลย
เครดิตแหล่งข้อมูล :krungsri
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!