[รีวิว]New Mazda 3 2019 การเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แบบ
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จัดการทดสอบรถยนต์มาสด้า 3 ใหม่ก่อนออกขายจริงกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ เจนเนอเรชั่น ที่ 7 เริ่มต้นจากการออกแบบใหม่ภายนอกอันสง่างามของ KODO design สู่ความสมบูรณ์แบบทั้งในโฉมซีดานและแฮทแบ็คยังโดดเด่นเรียบง่าย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรถต้นแบบอย่าง Vision Coupe นำมาใช้ในรถซีดาน สามารถสังเกตเห็นได้จากด้านหน้าซึ่งเป็นกระจังหน้าอันโดดเด่นด้วยการตกแต่งทรงปีกโครเมียมลู่รับไปกับไฟหน้าบางเฉียบ ส่วนด้านหลังใช้เส้นสายไหลลื่นพาดผ่านตัวถัง ด้านท้ายยังคงมีความสปอร์ตด้วยสปอย์เลอร์ที่ติดกับด้านหลัง ไฟท้ายบางเรียวแบบLEDและท่อไอเสียแบบคู่
ส่วนภายในห้องโดยสารเป็นการปฎิวัติใหม่หมด ภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนให้มีขนาดกว้างขวางกว่าในโฉมก่อน โดย Mazda ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียด แต่กล่าวเพียงว่า "less is more" หรือ น้อยแต่ได้มากซึ่งเป็นผลพวงมาจากการดีไซน์แบบมินิมอลลิสต์ ไฮไลท์สำคัญยังรวมถึง พวงมาลัยแบบสามก้าน หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์แบบลอยแยกออกมาขนาด 8.8 นิ้ว แดชบอร์ดตกแต่งด้วยหนังอย่างดีพร้อมเล่นขอบโคมเมียมโดยรอบ Mazda ยังเน้นอุปกรณ์ต่างๆภายในซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายขนาดเล็กแบบพิเศษซึ่งถูกดีไซน์มาเพื่อบ่งบอกถึงความหรูหราและความอบอุ่นจากหนังแท้
เพิ่ม Damping Bond รอบคัน เพื่อลดเสียงรบกวน ลดอาการสั่นสะเทือน อุดช่องต่างๆเพื่อลดเสียงรบกวน มาพร้อมกับเพิ่มวัสดุซับเสียง ลดการสั่นสะเทือน ทั้ง NVH, Craftsmanship และ HMI ด้านความบันเทิง การออกใหม่ทั้งหมดในการจัดวางลำโพงใหม่เพื่อตำแหน่งในการฟังที่ดีขึ้นมาพร้อม ด้วยลำโพง BOSE 12 ตำแหน่งรอบคัน (สำหรับรุ่นท็อป)ที่ให้เสียงชัดในทุกตำแหน่งการนั่ง
อีกจุดเด่นนึงที่มองข้ามไปไม่ได้ เบาะนั่งที่คิดเพื่อการนั่งที่สมบูรณ์แบบเพื่อไม่ให้เกิดความเมื่อยล้านั่งได้สบายมากขึ้น ตำแหน่งคอนโซนกลางได้เปลี่ยนตำแหน่งวางแก้วน้ำใหม่เพื่อให้หยิบได้ง่ายขึ้น ทำให้เพิ่มช่องที่พักแขนสามารถเก็บของได้มากขึ้นด้วย วัสดุหนังต่างๆถูกเปลี่ยนให้มีผิวสัมผัสที่ดีขึ้นด้วย
มีการปรับเปลื่ยนโครงสร้างใหม่ โดยเฉพาะในระบบช่วงล่าง ซึ่งด้านหน้าเป็นแบบหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเปลี่ยนใหม่ จากมัลติลิงค์ เป็นทอร์ชั่นบีม (คานแข็ง) มีระบบ GVC PLUS ที่ต่อยอดขึ้นมาจากระบบ G Vectoring Control ด้วย Yaw Moment ช่วยลดการหักเหของตัวรถ โดยการเพิ่มแรงเบรก เพื่อรักษาเสถียรภาพการทรงตัวได้ดีมากขึ้น
ขุมพลังยังคงเป็นรหัสเดิม เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ปรับเพิ่มแรงบิด พัฒนาท่อทางเดินของระบบน้ำหล่อเย็น ช่วยตอบสนองอัตราเร่งดีขึ้น รวมถึงการตัดต่อของเกียร์อัตโนมัติที่ราบเรียบกว่ารุ่นเดิม ภายในหัวลูกสูบมีการปรับแก้ขอบให้มีความโค้งมนขึ้นลดแรงเสียดทานในกระบอกสูบ แต่ยังไม่ได้แจ้งถึงแรงบิดและแรงม้าที่มาในรุ่นใหม่นี้. แต่รองรับน้ำมันได้ถึงE85
ระบบความปลอดภัยมาเต็ม กับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทั้ง Front Cross Traffic Alert ซึ่งใช้เรดาร์ด้านข้างตรวจสอบสิ่งทีจะใกล้เข้าตัวรถในจุดอับสายตา ยังติดตั้งระบบ Cruising & Traffic Support ซึ่งจะช่วยเร่งความเร็ว เบรค และหักเลี้ยวรถโดยอัตโนมัติในช่วงรถติด นอกจากนี้ วิศวกรยังได้พัฒนาระบบ Driver Monitoring แบบใหม่ ซึ่งใช้กล้องอินฟราเรดในการตรวจสอบผู้ขับขี่และหากมีอาการง่วงซึมหรือเบลอขณะขับรถ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนอันตรายผ่านเสียง
สำหรับการทดสอบแบบสั้นๆที่ทางมาสด้าจัดเตรียมให้เพื่อได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ที่สนามทดสอบยางโยโกฮาม่า จ.ระยอง สำหรับการทดสอบ ทางมาสด้าได้จัดให้ลองขับเปรียบเทียบระหว่างมาสด้า3 รุ่นใหม่กับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งมีสองสถานีให้ทดสอบ และให้ลองขับมาสด้า3 รุ่นใหม่และรุ่นปัจจุบันสลับกันอย่างละหนึ่งรอบ ในแต่ละสถานี
สถานีแรก (Handling Track) ทีมงานได้จัดเตรียมสถานีตามสภาพเส้นทางในสนาม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทางโค้ง และมีการจำกัดความเร็ว ตามตำแหน่งแต่ละสถานี รอบแรกกับมาสด้ารุ่นเดิม รอบสองกับรุ่นใหม่ ชัดเจนกับการสัมผัสรถครั้งแรกคือเสียงในห้องโดยสารเงียบขึ้นมาก ภายในออกแบบได้อย่างลงตัวเรียบง่าย วิ่งตามเส้นทางการโยนตัวของรถน้อยกว่ารุ่นเดิมมาก ทำให้การใช้พวงมาลัยคมขึ้น คอนโทรลรถได้ง่ายขึ้น น่าแปลกโดยความเร็วที่ไม่มากแต่รถแสดงอาการความต่างได้อย่างชัดเจน