ขนส่งฯ เตือนรถบรรทุกติดไฟสปอตไลท์แยงตา มีความผิดตามกฎหมาย
2 มี.ค.64-นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน กรณีรถบรรทุกมีการตกแต่งติดตั้งไฟสปอตไลท์ (Spot Light) ที่ด้านหน้ารถจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนน เกิดอาการสายตาพร่ามัว เนื่องจากโคมไฟสปอตไลท์มีความแตกต่างจากโคมไฟรถยนต์ โดยจะให้ความสว่างแบบเต็มพื้นที่โคม ไม่มีการควบคุมการกระจายของแสง ไม่มีการจำกัดแนวของแสงเหมือนกับโคมไฟหน้ารถยนต์ที่จะมีแนวจำกัดแสง (Cut-off Line) เพื่อป้องกันแสงแยงตาผู้ขับรถที่ใช้ทางร่วมกัน
อย่างไรก็ตามดังนั้น รถบรรทุกที่ติดตั้งไฟสปอตไลท์จึงก่อให้เกิดอันตรายและอาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อการบาดเจ็บที่รุนแรงและเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีการกำหนดรายละเอียดโคมไฟสำหรับรถบรรทุกไว้แล้ว ซึ่งเจ้าของรถต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้ โคมไฟแสงพุ่งไกล (ไฟสูง) แสงขาว/เหลืองอ่อน จำนวน 2 ดวง ติดที่ด้านหน้า ระดับเดียวกันทั้งข้างซ้ายและขวา โคมไฟแสงพุ่งต่ำ (ไฟต่ำ) แสงขาว/เหลืองอ่อน จำนวน 2 ดวง ติดที่ด้านหน้า ระดับเดียวกันทั้งข้างซ้ายและขวา และต้องมีทิศทางส่องสว่างไปด้านหน้า
ทั้งนี้โดยจะต้องไม่เบี่ยงเบนไปทางด้านขวา หรือส่องขึ้นสูงเกินไปจนทำให้รบกวนสายตาผู้อื่น โคมไฟแสดงความกว้าง (ไฟหรี่) แสงขาว/เหลืองอ่อน จำนวน 2 - 4 ดวง ติดที่ด้านหน้า ระดับเดียวกันทั้งข้างซ้ายและขวา โคมไฟเลี้ยว ชนิดไฟกระพริบ แสงเหลือง ติดที่ด้านหน้า 2 ดวง ด้านท้าย 2 - 4 ดวง โคมไฟท้าย จำนวน 2 - 4 ดวง โคมไฟหยุด จำนวน 2 - 4 ดวง โคมไฟถอย แสงขาว จำนวนไม่เกิน 2 ดวง โคมไฟส่องป้ายทะเบียน แสงขาว อย่างน้อย 1 ดวง และโคมไฟแสดงส่วนสูง แสงเขียว จำนวน 4 ดวง ที่ด้านหน้าบนตัวถังส่วนบรรทุกหรือหลังคารถด้านหน้า และ 2 ดวง แสงแดง ที่ด้านท้าย
นอกจากนี้ กรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากรถบรรทุกที่ติดตั้งไฟสปอตไลท์ สามารถแจ้งข้อมูลมายังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 พร้อมหลักฐาน เช่น ภาพหรือคลิปวิดีโอบันทึกการกระทำความผิดชัดเจน วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ รายละเอียดรถ ทะเบียนรถ รวบรวมแจ้งได้ที่ Line : @1584DLT, Facebook : "1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ" เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/, E-mail: dlt_1584complain@hotmail.com กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามระเบียบ โดยค่าปรับส่วนแรกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ส่วนที่เหลือจะนำมาจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และมอบให้ผู้แจ้งพฤติการณ์การกระทำความผิด เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม