5 ข้อควรรู้ ว่าเมื่อไรต้องเปลี่ยนยาง


5 ข้อควรรู้ ว่าเมื่อไรต้องเปลี่ยนยาง


เมื่อลมหนาวมาเยือน เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาวางแผนไปเที่ยวปลายปีแล้ว แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารถของเราอยู่ในสถานะที่พร้อมพาเราไปได้ทุกที่ที่อยากไป ควิกเลน แนะวิธีสังเกตอาการของยางรถยนต์ว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางแล้วหรือยัง เพื่อให้รถของคุณพร้อมรับมือกับทุกเส้นทางอย่างปลอดภัยสูงสุดรับฤดูท่องเที่ยวในหน้าหนาวนี้

สัญญาณว่าต้องเปลี่ยนยาง เช็กได้ด้วยตนเอง

ยางรถยนต์ทุกเกรด และคุณภาพ ล้วนแล้วแต่มีวันที่จะเก่าและเสื่อมลงตามกาลเวลา เพราะการวิ่งบนถนนหลากหลายรูปแบบ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการใช้งาน ส่งผลต่อเนื้อยาง หน้ายาง และดอกยาง ผลกระทบเหล่านั้นสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ดังนี้รอยรั่ว รอยบาก หรือเศษของมีคมบนยาง - ไม่ควรปล่อยให้รถวิ่งบนยางที่มีตำหนิหรือเศษสิ่งแปลกปลอมติดบนยาง เพราะอาจเป็นเหตุให้ยางแตก รั่ว และเกิดอันตรายได้ กรณีที่ยางจำเป็นต้องปะซ่อม ขอแนะนำให้ใช้วิธีการซ่อมแบบดอกเห็ดเท่านั้น และหลีกเลี่ยงการปะยางแบบแทงใยไหมหรือสตีมโดยเด็ดขาด เพราะทำให้ยางเกิดความเสียหาย

ระยะทางในการเบรกยาวขึ้นกว่าปกติ - การใช้งานยางเมื่อผ่านไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ดอกยางจะตื้นลง จึงควรเปลี่ยนยางทันทีเมื่อความลึกดอกยางน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร เพราะจะส่งผลต่อระยะเบรกที่ยาวขึ้นโดยเฉพาะเมื่อขับขี่บนถนนเปียก

ควบคุมรถบนถนนที่ลื่นได้ยากขึ้น - ความลึกของดอกยางจะลดต่ำลงตามระยะทางขับขี่ที่ใช้งานไป และจะส่งผลต่อการยึดเกาะถนนของรถเมื่อขับรถบนถนนที่ลื่นหรือที่เรียกว่าอาการเหิรน้ำ ซึ่งทำให้รถเสียการทรงตัวระหว่างการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อความลึกดอกยางน้อยกว่า 3 มม.

ดอกยางสึกไม่สม่ำเสมอกัน[1] - การสึกหรอไม่เท่ากันของดอกยาง เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเติมลมยางที่ไม่ถูกต้อง หรือปัจจัยอื่น สังเกตได้จากจุดต่อไปนี้

ขอบด้านนอกหรือขอบด้านในสึกมากกว่า (Toe wear) - เกิดจากการตั้งศูนย์ล้อ มุมบังคับเลี้ยว (มุม Toe) ไม่สมดุล

หน้ายางด้านในหรือด้านนอกสึกมากกว่า (Camber wear) - เกิดจากการตั้งศูนย์ล้อแนวตั้ง (มุม Camber) ไม่ถูกต้อง

ส่วนกลางของหน้ายางสึกหรอเป็นพิเศษ (Center Wear) -เกิดได้จากแรงดันลมยางที่มากเกินไป
ส่วนขอบของหน้ายางทั้งด้านในและด้านนอกสึกหรอเป็นพิเศษ (Edge Wear) - บริเวณขอบทั้งสองด้านสึกมากเป็นพิเศษ เกิดจากแรงดันลมยางน้อยเกินไป

ขอแนะนำให้เติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานของรถแต่ละรุ่น ซึ่งสามารถดูค่าความดันลมยางมาตรฐานได้จากคู่มือผู้ใช้รถหรือป้ายแนะนำความดันลมยาง ซึ่งมักจะติดอยู่บริเวณเสากลางตัวรถด้านใน

อายุการใช้งาน - หากยางรถยนต์มีอายุการใช้งานครบ 6 ปี นับจากวันผลิต หรือมีความลึกดอกยางน้อยกว่า 3 มม. หรือใช้งานมาประมาณ 50,000 กิโลเมตร ควิกเลนแนะนำให้เปลี่ยนยางโดยทันที รวมถึงยางอะไหล่ที่ควรตรวจสอบและเปลี่ยนทันทีโดยไม่ต้องคำนึงถึงการสึกของดอกยางแต่อย่างใด

เครดิตแหล่งข้อมูล : 9carthai


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์