รถพลังไฟฟ้าจะครองเจ้าตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2030

รถพลังไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในหลายประเทศ แต่คาดการณ์ว่าในเมืองที่มีความมั่งคั่งอย่างลอนดอน และสิงคโปร์จะมีการขยายตัวมากกว่าใครเพื่อน

การสำรวจตลาดโดยแมคคินซีน์ และบลูมเบิร์กระบุถึงหลายปัจจัยทั้งต้นทุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังไฟฟ้าที่ลดลง กฎระเบียบด้านมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น และความสนใจของลูกค้าที่มากกว่าเดิมจะทำให้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์อย่างโฟล์คสวาเกน และเดมเลอร์ได้ประกาศแผนการพัฒนารถพลังไฟฟ้ารุ่นใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยโฟล์คสวาเกนเพิ่งเผยโฉมรถต้นแบบไอ.ดี. ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัวเจนเนอเรชั่น อีคิว รถต้นแบบพลังไฟฟ้าพร้อมกับวางแผนเป็นผู้นำตลาดรถไฟฟ้าภายในปี 2025

รถพลังไฟฟ้าจะครองเจ้าตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2030

รายงานการสำรวจตลาดระบุด้วยว่า “เมืองที่มีประชากรหนาแน่น อย่างลอนดอน และสิงคโปร์จะมีสัดส่วนรถพลังไฟฟ้ามากกว่า 60% บนท้องถนนภายในปี 2030 เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจในคุณสมบัติความประหยัดและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรถพลังไฟฟ้ามากขึ้น”

นอกจากนี้ รายงานฉบับดังกล่าวชี้ด้วยว่า ปรากฏการณ์ความนิยมในรถพลังไฟฟ้าจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนแปลงจากการครอบครองรถทั่วไปเป็นการบริการสาธารณะ ซึ่งคล้ายกับไรด์แชริ่ง ซึ่งรถคันเดียวสามารถใช้ร่วมกันได้หลายคน บริษัทรถยนต์ควรให้ความสำคัญกับแนวโน้มดังกล่าว



ที่มา : autospinn.com

รถพลังไฟฟ้าจะครองเจ้าตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2030

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์